ยึดสวนทุเรียนรุกป่า(หลังสวน) ชี้ ตัวการทำต้นน้ำเสื่อมโทรม ชุดปฏิบัติการพิเศษ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบสวนทุเรียนกลางยอดเขา พบมีการบุกรุกป่าสงวน และสร้างบ้าน ชี้เป็นตัวการทำลายธรรมชาติ ขณะที่ผู้บุกรุกหลบหนีไปได้
วันนี้ (13 มิ.ย.2563) นายวิจิตร สัจจารักษ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันป่า ที่ ชพ 4 (หลังสวน) พร้อมด้วย ร.ต.ท.วัชระ พัฒน์ทอง รองสารวัตรกองกำกับการ 5 (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ(บก.ปทส.) ร.ท.กอบศักดิ์ นาคหาญ หัวหน้า ชรต.กอ.รมน.ชพ. ร.ต.อ.จำนง เต็งประยูร รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชุมพร นายณรงค์ สังข์กล่ำ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ร่วมนำกำลังเดินทางไปยังเป้าหมายที่บ้านในหงาว หมู่ที่ 9 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อตรวจสอบพบการบุกรุกป่าสงวน กลางยอดภูเขาสูง
การเดินทางตั้งต้นไปตามเส้นทางถนนคอนกรีต จากซ.ห้วยส่าน ลึกเข้าไปเป็นถนนสายย่อยไต่ขึ้นไปทางลาดชันของภูเขาสูง จนถึงใกล้ยอด ต้องเดินเท้าอีก 1 กม. ล้อมรอบไปด้วยป่าสมบูรณ์เขียวชอุ่ม
เมื่อเดินไปถึงพื้นที่เป้าหมาย พบว่า กลางหุบเขาที่มีเขาขนาดใหญ่ล้อมรอบ เป็นป่าต้นน้ำ กลับถูกบุกรุกแผ้วถางตั้งแต่ลำห้วยขึ้นไปตามไหล่เขา รอบด้านกลายเป็นสวนทุเรียนหมอนทอง มีอายุตั้งแต่ไม่กี่เดือนจนถึง 2 ปี นับร้อยๆ ต้น ใจกลางหุบเขามีบ้านขนาดเล็กปลูกสร้างไว้พักผ่อน และเก็บอุปกรณ์ทำสวน มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกขุดด้วยรถแบคโฮ พร้อมเครื่องสูบน้ำ มีการวางท่อน้ำเป็นระบบทั้งท่อขนาด 5 นิ้วจนถึงท่อขนาดเล็ก พร้อมระบบสปริงเกอร์เพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไปทั่วทั้งหุบเขา ในขณะที่ในลำห้วยกลางหุบเขายังคงมีน้ำไหลลงมาจากยอดเขาสูงอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มากนัก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำแห่งนี้ก่อนการถูกบุกรุก
การตรวจสอบพบว่า พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเสียหายไปจำนวนมาก แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขา จึงต้องตรวจรายละเอียดความเสียหายให้ละเอียดอีกครั้ง แต่ได้ให้ จนท.ทำการปักหมุดแสดงแนวเขตป่าของหน่วยงานทั้งสองอย่างชัดเจน และได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเพื่อจับกุมคนร้ายที่เข้าไปบุกรุกทำสวนทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บุกรุก ทราบว่าเป็นชาวบ้านที่มีพักอาศัยอยู่ในซอยห้วยส่าน มีอาชีพทำสวนทุเรียนในพื้นที่ป่า ที่ได้รับอนุญาตบางส่วนและมีเอกสารสิทธิ์บางส่วน แต่ยังไม่ยอมหยุดการบุกรุกป่าสงวน ทั้งที่ จนท.ป่าไม้เคยตักเตือนไม่ให้บุกรุกป่า มาหลายครั้ง จนกระทั่งได้รับแจ้งว่า ยังคงมีการบุกรุกป่าสงวนในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จึงได้รวบรวมกำลัง จนท.หลายหน่วยงาน เข้าจับกุม
แต่คนร้ายไหวตัว หลบหนีออกจากพื้นที่ไปก่อน จนท.จะเข้าไปถึง จึงได้ทำการยึดเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดี และจะได้หาหลักฐานเพื่อดำเนินการจับกุมคนร้ายต่อไป ถ้าชาวบ้านพบเห็นการบุกรุกผืนป่าดังกล่าวให้ รีบแจ้งจนท.ทันที ก่อนความเสียหายที่มีต่อธรรมชาติจะรุนแรงกว่านี้
สำหรับพื้นที่ป่าสงวน “ป่าหลังสวน”ผืนนี้เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่ถูกบุกรุกมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ส่งผลให้แม่น้ำลำคลองในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพรมีความเสียหายอย่างหนัก ในฤดูแล้ง ขาดน้ำในการอุปโภคบริโภค ทำให้น้ำทะเลหนุนขึ้นมาจนถึงพื้นที่เมืองและสวนเกษตร ส่งผลให้นำในแม่น้ำหลังสวนมีความเค็มจนไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
อาทิ น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคหลังสวน มีความเค็มอยู่นาน2เดือน เมื่อถึงฤดูฝนทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงท่วมพื้นที่ต่างๆใน อ.หลังสวน สร้างความเสียหายทุกปี แม่น้ำ ลำคลอง ลำห้วย แทบจะไม่มีน้ำเหลือ เนื่องจากป่าต้นน้ำที่เป็นแหล่งผลิตน้ำถูกทำลายอย่างหนัก ยิ่งราคาทุเรียนหมอนทองมีราคาสูง ป่าสงวนก็จะถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา