“แอสตร้าเซนเนก้า” ผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ (AZD1222 SARS-CoV-2 vaccine) วัคซีนที่องค์การอนามัยโลก ยกให้เป็นเป็นความหวังที่ดีที่สุดของโลก ในการต่อสู้กับโควิด-19 ถูกระงับการทดสอบแล้ว หลังพบผู้เข้าร่วมทดสอบรายหนึ่งป่วยไม่รู้สาเหตุ
บริษัทยาชั้นนำของอังกฤษ อัสตรา-เซเนกา (AstraZeneca) ประกาศระงับการทดสอบเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังมีอาสาสมัครคนหนึ่งเกิด “อาการไม่พึงประสงค์ขั้นร้ายแรง” แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่การพิจารณาว่าอยู่ในขั้น “ร้ายแรง” และยิ่งถ้าต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ “สแตท นิวส์” รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า คาดว่าอาสาสมัครจะฟื้นตัวได้ ส่วนการระงับการทดสอบ ยังไม่แน่ชัดเช่นกันว่าใครเป็นผู้ออกคำสั่งระงับ
วัคซีนตัวนี้ ที่รู้จักกันในชื่อ “AZD1222” ได้ถูกองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยกให้เป็นความหวังที่ดีที่สุด โดยเป็น 1 ในวัคซีน 9 ตัว ที่อยู่ในการทดสอบเฟสที่ 3 ก่อนส่งข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อขออนุมัติ แม้การระงับการทดสอบวัคซีนไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ก็ทำลายความหวังที่ว่า มันจะพร้อมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งนายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ เพิ่งกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาหวังว่าจะมีวัคซีนใช้ในช่วงไม่กี่เดือนแรกของปี 2564 และบอกด้วยว่า ได้ทำสัญญากับอัสตรา-เซเนกา ในการจัดซื้อวัคซีน 30 ล้านโดสไปแล้ว
ปัจจุบัน มีอาสาสมัครมากกว่า 50,000 คนทั่วโลก ที่เข้าร่วมการทดสอบเฟส 3 ของวัคซีนตัวนี้ ส่วนประเทศอื่นที่สั่งวัคซีน ได้แก่ สหรัฐฯ 100 ล้านโดส, สหภาพยุโรป 300 ล้านโดส, ออสเตรเลีย ไม่ได้ระบุจำนวน แต่บอกว่า มีพอสำหรับประชากร 25 ล้านคน, บริษัทในเสิ่นเจิ้นของจีน 100 ล้านโดส, บริษัท อาร์-ฟาร์มของรัสเซีย ทำข้อตกลงร่วมผลิตและจัดจำหน่าย แต่ไม่ได้ระบุจำนวน และบราซิลต้องการอย่างน้อย 100 ล้านโดส
<