บอร์ด สปสช. อนุมัติ ‘งบบัตรทอง’ ปี 66 กว่า 2 แสนล้านบาท ยกระดับบัตรทอง – รองรับสิทธิประโยชน์ใหม่ 26 รายการ หนุนนโยบายยกระดับบัตรทอง-นวัตกรรมการแพทย์ พร้อมอัดสิทธิประโยชน์ใหม่อีก 26 รายการ ขณะที่ยังรองรับบริการโควิด-19 ต่อเนื่อง หลังกลายเป็นโรคประจำถิ่น
ที่ประชุม บอร์ด สปสช. ครั้งที่ 13/2564 มีมติเห็นชอบข้อเสนองบบัตรทอง ปีงบประมาณ 2566 จำนวน 207,093 ล้านบาท และให้สปสช. เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ต่อไป
สำหรับข้อเสนองบประมาณกองทุนฯ ปี 66 เพิ่มจากปีงบประมาณ 65 จำนวน 8,202 ล้านบาท เพื่อรองรับนโยบาย รมว.สธ. อาทิ 4 โครงการยกระดับบัตรทอง โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ การส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ นโยบายผู้สูงอายุ การดูแลที่บ้านและชุมชน นโยบายลดความแออัดโรงพยาบาลปฐมภูมิในเขตเมือง นวัตกรรมด้านการแพทย์ และบริการ Telemedicine นอกจากนี้ ยังรองรับสิทธิประโยชน์ใหม่ที่จะประกาศเพิ่มภายในปี 2565 จำนวน 26 รายการ รวมทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์และยาตามบัญชีนวัตกรรม
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า ในงบประมาณจำนวน 207,093 ล้านบาท แยกเป็นเงินเดือนภาครัฐจำนวน 61,842 ล้านบาท และเป็นเงินกองทุนฯ ที่ส่งให้ สปสช. จำนวน 145,251 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้เป็นงบเหมาจ่ายรายหัว ค่าบริการอื่นๆ นอกงบเหมาจ่ายรายหัว ได้แก่ ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ค่าบริการควบคุมป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ รวมถึงรายการใหม่หรือที่แยกมาจากเหมาจ่าย
การจัดทำข้อเสนองบประมาณครั้งนี้ ยังพิจารณาภายใต้สถานการณ์ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวหลังโควิด-19 ซึ่งคาดการณ์ว่าโรคโควิด-19 จะกลายมาเป็นโรคประจำถิ่น โดยงบบริการโควิด-19 จะผนวกอยู่ในข้อเสนองบกองทุนฯ ปี 2566 รวม 1,358 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบกรอบวงเงินสำหรับ ยา/วัคซีน/เวชภัณฑ์/อวัยวะเทียม/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ที่ให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์จัดหาให้ ปี 2566 รวมจำนวน 14,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จากปี 2565
สํานักข่าวกรมประชาสัมพันธ์