“เบาหวาน” เป็นภาวะเรื้อรังของการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเกิดจากความบกพร่องของการสร้างอินซูลินจากตับอ่อน โรคเบาหวานมักจะเกี่ยวพันกับโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ ภาวะหัวใจขาดเลือด โรคไต ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจมีปัญหาต่อหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถที่จะดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้
โรคเบาหวาน นั้นบางทีเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการอะไรบ่งบอก ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ หากไม่ได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ก็จะไม่ทราบว่าเป็นเบาหวาน จนกระทั่งโรคดำเนินไปมากแล้วจึงจะรู้ตัว
บางครั้งผู้ป่วยมาพบแพทย์ เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นโดยที่ตนเองไม่รู้ตัวมาก่อนเลยว่าเป็นเบาหวาน ซึ่งหากปล่อยไว้ในบางราย อาจสายเกินกว่าที่จะเรียกสุขภาพที่ดีกลับคืนมาได้ ดังนั้น เราควรตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตนเองด้วยว่าอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้เกี่ยวกับโรคเบาหวานหรือไม่
9 สัญญาณเตือนโรคเบาหวาน
1. คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ เป็นผลมาจากการที่ร่างกายเสียน้ำไปจากการปัสสาวะบ่อยและมาก เมื่อปัสสาวะบ่อย ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำจึงต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำบ่อยๆ
2. ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ เนื่องจากกระบวนการกรองน้ำตาลในเลือดที่สูงมากออกมากทางปัสสาวะ ไตจำเป็นต้องดึงน้ำออกมาด้วย ดังนั้น ผู้ป่วยยิ่งมีระดับน้ำตาลสูงมากเท่าใดก็ยิ่งปัสสาวะบ่อยและมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ต้องตื่นมา เข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหลายครั้ง
3. หิวบ่อย กินอาหารมากกว่าเดิม เนื่องจากร่างกายขาดพลังงาน จึงทำให้รู้สึกหิวบ่อย และรับประทานจุ
4. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากในภาวะที่ขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่วมกับการขาดน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ร่างกายจึงจำเป็นต้องนำเอาโปรตีนและไขมันที่เก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อมาใช้แทน จึงทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
5. สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด ตาแห้ง สายตาพล่ามัวแบบไม่มีสาเหตุ การมีน้ำตาลในเลือดมากเกินไปอาจทำให้หลอดเลือดในดวงตาของคุณเสียหายได้ ซึ่งอาจทำให้มองเห็นไม่ชัดในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
6. รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง เนื่องจากน้ำตาลที่เคลื่อนจากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ของร่างกายไม่เพียงพอ
7. มีแผลและแผลหายช้ากว่าปกติ เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน ก็สามารถทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือดของร่างกายได้ สิ่งนี้อาจทำให้การไหลเวียนโลหิตลดลง เมื่อเลือดไหลเวียนไม่ได้ บาดแผลเล็กๆ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะหาย
8. ชา ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่ที่ปลายมือปลายเท้า
9. ผิวหนังแห้ง คัน เกิดอาการคันตามบริเวณผิวหนัง คันตามตัว หรือคันบริเวณปากช่องคลอด