กอปภ.ก.แจ้งเตือน 8 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 27-30 พ.ย.
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 27 – 30 พ.ย.2563
แยกเป็น ชุมพร (ทุกอำเภอ) สุราษฎร์ธานี 15 อำเภอ ได้แก่ ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง วิภาวดี กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก คีรีรัฐนิคม พนม เวียงสระ เคียนซา พระแสง บ้านนาสาร ชัยบุรี บ้านตาขุน และเกาะสมุย
นครศรีธรรมราช 15 อำเภอ ได้แก่ เมืองนครศรีธรรมราช พรหมคีรี พิปูน ฉวาง ลานสกา ช้างกลาง ร่อนพิบูลย์ ทุ่งสง นาบอน ขนอม สิชล นบพิตำ ชะอวด ท่าศาลา และจุฬาภรณ์
พัทลุง 7 อำเภอ ได้แก่ ตะโหมด ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ กงหรา ป่าบอน ป่าพะยอม และเขาชัยสน,
สงขลา 8 อำเภอ ได้แก่ เมืองสงขลา รัตภูมิ จะนะ หาดใหญ่ สะเดา สะบ้าย้อย นาหม่อม และนาทวี,
ปัตตานี (อำเภอโคกโพธิ์) ยะลา 6 อำเภอ ได้แก่ ยะหา กานัง บันนังสตา กรงปินัง ธารโต และเบตง, นราธิวาส 3 อำเภอ ได้แก่ ศรีสาคร รือเสาะ และจะแนะ
โดยกำชับให้จังหวัดประสานอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังปริมาณฝนสะสมโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าผ่านกลไกการสื่อสารแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำทีมปฏิบัติการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ
หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์หรือสถานการณ์ขยายวงกว้างให้จัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ชุดเคลื่อนที่เร็ว รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และปฏิบัติตามแนวทางของแผนเผชิญเหตุในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด
สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป