ราคายางพาราตกลงทุกวัน ชาวสวนเมืองคอนหันเลี้ยง ‘ไก่แจ้’ เพื่อขายให้นักแข่งขันนำไปประชันเสียงล่าเงินรางวัล
วันนี้ (27 ส.ค.61) นายทวีศักดิ์ เกลี้ยงกลม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 292 หมู่ 9 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ประธานชมรมไก่แจ้เสียงดีอำเภอทุ่งใหญ่ และเป็นชาวสวนยางพารา ได้นำผู้สื่อข่าวชมสถานที่เลี้ยงไก่แจ้ขายของตนเอง
ทำให้มีรายได้เงินแสนเสริมอาชีพทำสวนยางพาราที่นับวันราคาตกลงทุกวัน แต่ในปัจจุบันธุรกิจเพาะพันธุ์ไก่แจ้ขายมีรายได้เป็นอย่าดี ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาตนมีรายได้หลายแสนบาท เนื่องจากมีผู้นิยมการนำไก่แจ้มาแข่งขัน ประเภทเสียงดี ขันนาน เพื่อชิงเงินรางวัลเงินสด และถ้วยเกียรติยศตามสนามต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย
“ถ้าไก่แจ้ตัวไหนเสียงดี และแข่งขันชนะเลิศหลายรายการจะได้รับรางวัล หลังจากนั้นจะมีราคาตัวละ 4-5 พันบาทตามความสามารถ แต่ลูกไก่ที่ยังไม่ได้เข้าแข่งขันจะขายได้ในราคาตัวละ 2-300 บาท ซึ่งมีราคาแพงกว่าไก่บ้านไก่พันธุ์ทั่วไปเป็นหลายเท่า
เนื่องจากสนามแข่งขันเสียงไก่แจ้ กำลังขยายไปหลายพื้นที่ในจังหวัดทางภาคใต้ ประชาชนที่เคยแข่งขันนกกรงหัวจุก ได้หันมาแข่งขันไก่แจ้กันแทนเป็นวงกว้างเนื่องจากไก่แจ้ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครองเหมือนนกกรงหัวจุก จึงทำให้มีการแข่งขันไก่แจ้เสียงดีกันมากขึ้นตลอดมา” นายทวีศักดิ์ กล่าว
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การเลี้ยงไก่แจ้ของชาวสวนยางพารา เป็นการใช้เวลาว่างสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวและบางรายทำเป็นอาชีพหลักแทนสวนยางพาราไปแล้ว เนื่องจากราคายางพาราตกลงทุกวัน จึงหันมาเลี้ยงไก่แจ้เพื่อขายให้นักแข่งขันนำไปประชันเสียงล่าเงินรางวัล จึงทำให้ลูกไก่แจ้มีราคราสูงขึ้นทุกวัน ส่วนไข่ของไก่แจ้ก็มีราคาดี
เนื่องจากมีคนกินเป็นไข่ลวก แล้วทำให้มีพลังทางเพศเพิ่มขึ้น ไข่ไก่แจ้จึงเป็นที่ต้องการของผู้นิยมกินเสริมพลังจนขาดตลาดเพราะราคาไก่แพง จึงนำไข่ไก่แจ้มาฟักให้เป็นตัวเพื่อขายลูกไก่ แข่งกับผู้ที่กินไข่ไก่แจ้เพิ่มพลัง ทำให้ชาวสวนยางที่หันมาเพาะพันธุ์ไก่แจ้ขายมีรายได้
ที่มา – http://www.naewna.com/likesara/360505