เพจกองปราบปราม โพสต์เตือน!! “ถ้าขับรถกีดขวางทางรถพยาบาลฉุกเฉิน แล้วทำให้ผู้ป่วยในรถพยาบาลถึงแก่ชีวิต อาจเข้าข่ายความผิดที่กระทำโดยประมาท หรือกระทำโดยเจตนาฆ่า แต่ปัญหาทั้งหมดจะไม่เกิดถ้าผู้ขับขี่ทุกคนมีจิตสำนึกและตระหนักถึงใจเขาใจเรา หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน รวมทั้งรถกู้ภัยด้วย
5 สิ่งที่ควรทำหลังได้ยิน เสียงไซเรนรถพยาบาล
สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ทุกท่านที่เพิ่งนำรถออกมาขับขี่บนท้องถนน แล้วต้องประสบเหตุการณ์เจอรถพยาบาลฉุกเฉินเป็นครั้งแรก จนเกิดอาการตกใจ ไม่สามารถบังคับรถให้หลีกทางได้
1. ตั้งสติ เมื่อคุณเห็น สัญญาณไฟ และได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หลายคนอาจตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทำอะไรไม่ถูก ดังนั้น ก่อนอื่นเลยคุณควรสูดลมหายใจให้ลึกๆ และตั้งสติให้พร้อมค่ะ
2. สังเกต หลังจากที่คุณตั้งสติ สูดลมหายใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ พยายามมองกระจกหลังเพื่อเล็งระยะของรถพยาบาลที่กำลังจะวิ่งผ่านมา
3. คำนวณ ถ้าหากมองดูแล้วว่าพบว่า ปริมาณรถทั้งซ้ายขวาที่อยู่ใกล้ ไม่มีอันตราย และเราสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้คุณลดความเร็วรถลง และเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที แต่ถ้าคุณไม่สามารถหลีกทางได้ อาจเพราะ สภาพรถที่หนาแน่น และมีอันตรายก็ให้หยุด หรือชะลอรถเพื่อให้รถพยาบาลหาทางวิ่งผ่านไปให้ได้ก่อน
4. ทิ้งระยะห่าง เมื่อรถพยาบาลสามารถวิ่งผ่านไปได้แล้ว สิ่งต่อมาที่คุณควรทำก็คือ การชะลอรถ อย่าเพิ่งรีบขับตามรถพยาบาลไปเป็นอันขาด ท่องไว้ค่ะว่า ห้าม! ห้าม!! ห้ามขับตามเด็ดขาด!!!
5. ให้สัญญานกรณีฉุกเฉิน กรณีที่บนถนนมีรถติดและรถพยาบาลอยู่ด้านหลังรถของคุณพอดี Rabbit Care ขอแนะนำให้คุณพิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวา แต่ถ้าไม่มีใครหลีกทาง งานนี้คุณคงต้องตัดสินใจเลือกแล้วละว่าจะหลบทางไหน และเปิดไฟเลี้ยวเพื่อให้สัญญาณ รถพยาบาลจะได้แซงผ่านไปได้สะดวก
ขณะที่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ แนะนำวิธีให้ทาง “รถฉุกเฉิน” เมื่อเห็นสัญญาณไฟและได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนให้ผู้ขับขี่รถตั้งสติ พยายามมองกระจกหลังเพื่อกะระยะของรถพยาบาลที่วิ่งมา เมื่อดูปริมาณรถทั้งด้านซ้ายและขวา หากพบว่าไม่มีอันตรายก็ให้ลดความเร็วรถ และเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางทันที หากไม่สามารถหลีกทางได้เพราะสภาพจำนวนรถที่หนาแน่นและมีอันตราย ก็ให้หยุดชะลอรถ และเมื่อรถพยาบาลฉุกเฉินวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด ทั้งหมดก็เพื่อให้ประชาชนยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ